มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี

ประกาศรับสมัครขอรับทุนการศึกษาแก่นิสิตนักศึกษาบัณฑิตศึกษาเพื่อใช้ในการค้นคว้าวิจัย (ประจำปี 2567)

หลักการและวัตถุประสงค์

มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี ได้รับการจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์สําคัญคือ สนับสนุนการอบรมการศึกษาและให้ความช่วยเหลือ แก่นักศึกษาที่ขัดสน สนับสนุนสถาบันการแพทย์และจัดให้มีการรักษาพยาบาลแก่คนไข้ที่ยากจนและเผยแพร่พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี

ในการสนับสนุนการอบรมการศีกษานั้น มูลนิธิฯ ได้มีโครงการให้ทุนการศีกษาแก่นิสิตนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่มีสัญชาติไทยในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชนในประเทศไทย เพื่อใช้ ในการค้นคว้าวิจัยในหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอกในศาสตร์แขนงต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยในการสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับประเทศไทยและสร้างทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถในการค้นคว้าวิจัยซึ่งย่อมส่งผลให้เกิดความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศตามมา สมดังพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี พระบรมราชินี

องค์กรดําเนินงาน

มูลนิธิฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาปริญญาโท และปริญญาเอกขึ้น ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในศาสตร์ต่าง ๆ คณะอนุกรรมการฯ ชุดนี้เป็นผู้กําหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการ ตลอดจนตัดสินให้ทุนการศึกษาในโครงการนี้ คณะอนุกรรมการฯ นี้เป็นผู้พิจารณาชี้ขาดเกี่ยวกับ การให้ทุนและการกําหนดจํานวนเงินทุน ทั้งนี้ ภายใต้การกํากับดูแลของคณะกรรมการมูลนิธิฯ

ผู้มีสิทธิขอรับทุน

ผู้มีสิทธิขอรับทุน คือ นิสิตนักศึกษาผู้มีสัญชาติไทย และลงทะเบียนรายวิชาในหลักสูตร ขั้นบัณฑิตศึกษา (ปริญญาโท และ/หรือ ปริญญาเอก) ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และ/หรือ เอกชนในประเทศไทย

โครงการค้นคว้าวิจัยที่พึงประสงค์

1. ผู้มีสิทธิขอรับทุน ต้องเสนอโครงการค้นคว้าวิจัยของตนแก่คณะอนุกรรมการฯ โครงการดังกล่าว จะต้องเป็นโครงการเพื่อการค้นคว้า และ/หรือ วิจัยตามหลักสูตร ระดับบัณฑิตศึกษา (ปริญญาโทหรือปริญญาเอก) ของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และ/หรือ ของเอกชน ในประเทศไทยที่ผู้ขอรับทุน เป็นนิสิตนักศึกษาอยู่
2. เป็นโครงการค้นคว้า วิจัย เพื่อทําวิทยานิพนธ์ที่ได้รับการอนุมัติหัวข้อวิทยานิพนธ์แล้ว
3. แนวเรื่องต่อไปนี้จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

1) กรณีศึกษาในเรื่องเกี่ยวกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ/หรือ เกี่ยวกับสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗
2) พระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร
3) สารสนเทศ เทคโนโลยีดิจิตอลในการสร้างสื่อใหม่ และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)
4) ภาษาในสังคมไทย
5) ศิลปะและวัฒนธรรมในสังคมไทย
6) ศาสนา ความเชื่อ และ/หรือ จริยธรรมในสังคมไทย
7) วิทยาศาสตร์พื้นฐาน
8) วิทยาศาสตร์ประยุกต์
9) วิศวกรรมศาสตร์ เช่น วิศวกรรมเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
10) การเมืองภาคประชาชนประชารัฐ และ/หรือ การกระจายอํานาจ และ/หรือ สิทธิมนุษยชน
11) การสื่อสารมวลชนกับการพัฒนาสังคม
12) การพัฒนาทักษะของผู้เรียนเพื่อการดําเนินชีวิตในอนาคต
13) เศรษฐศาสตร์เพื่อลดความเหลื่อมล้ํา
14) ปัญหาและทางเลือกของเกษตรกรไทย
15) ปัญหาภัยพิบัติในประเทศไทย
16) ประเด็นทางสังคม และ/หรือ ความมั่นคง เนื่องด้วยประชาคมอาเซียน (ASEAN)
17) ประวัติศาสตร์สังคมของไทย
18) การท่องเที่ยวในประเทศไทย ประโยชน์และผลกระทบ
19) การจัดการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และ/หรือ สิ่งแวดล้อม
20) การส่งเสริมสุขภาวะของบุคคล ครอบครัว ชุมชน และสังคม

การจัดสรรเงินทุนให้โครงการ

ผู้ขอรับทุนเสนอประมาณการค่าใช้จ่ายของโครงการของตน ต่อคณะอนุกรรมการฯ
คณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณาจัดสรรเงินทุนที่ได้รับจากมูลนิธิฯ ในแต่ละปี โดยมีเกณฑ์การจัดสรร ดังนี้
ก. โครงการแต่ละโครงการจะได้รับทุน ไม่เกิน 20,000.- บาท
ข. การจ่ายเงินทุนจะกระทําเป็น 2 งวด ด้วยกัน เป็นสัดส่วนของเงินทุนทั้งหมด ดังนี้
งวดที่ 1 เมื่อตัดสินให้ทุน – 50%
งวดที่ 2 เมื่อส่งเล่มวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ – 50%

โครงการในที่นี้ รวมความถึงโครงการเพื่อผลิตผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น นอกจากงานเขียน เช่น การจัดทําชุดภาพนิ่ง ภาพยนตร์ ผลงานทางด้านศิลปะ เครื่องทุ่นแรง เป็นต้น

การสมัครขอรับทุน

ให้ผู้ขอรับทุนยื่นเอกสารได้ ดังนี้
1. ขอรายละเอียดและสมัครด้วยตนเองได้ที่สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 (กลุ่มงานกิจการทั่วไป สํานักบริหารงานกลาง) อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2242 5900 ต่อ 5241 – 5244 (Download ใบสมัครได้ที่เว็บไซต์ของมูลนิธิฯ www.parliament.go.th/kingrama7 เว็บไซต์ของรัฐสภา www.parliament.go.th ภายใต้หัวข้อข่าว ประชาสัมพันธ์ของสํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และทาง Facebook มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ ร.๗)
2. สมัครทางไปรษณีย์ส่งที่ มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (กลุ่มงานกิจการทั่วไป สํานักบริหารงานกลาง) เลขที่ 1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 ถึงวันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2568 พร้อมเอกสาร ดังนี้

1) ใบสมัครขอรับทุนของมูลนิธิฯ ซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ ได้รับรองประมาณการ ค่าใช้จ่ายที่จําเป็นแล้ว จํานวน 1 ชุด และสําเนาใบสมัครดังกล่าว จํานวน 1 ชุด
2) สําเนาใบลงทะเบียนวิทยานิพนธ์ ขั้นบัณฑิตศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐหรือ เอกชนในปีการศึกษานั้น ๆ (ออกโดยสถาบันการศึกษานั้น ๆ)
3) เอกสารวินิจฉัยความสามารถทางวิชาการ (recommendation) ของผู้สมัคร จากอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ (เสนอเป็นการลับโดยการปิดผนึก ในกรณีที่สมัครทางไปรษณีย์ อิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ 3 ให้ผู้สมัครขออาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ส่งเอกสารนี้ให้มูลนิธิฯ โดยตรง ทาง E-mail : kingrama7@parliament.go.th ภายในวันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2564)
4) สําเนาโครงร่างวิทยานิพนธ์ ซึ่งได้รับอนุมัติหัวข้อวิทยานิพนธ์ จากสถาบันอุดมศึกษา ของรัฐหรือเอกชน จํานวน 1 ชุด
5) รูปถ่ายครึ่งตัว ขนาด 1 นิ้ว จํานวน 1 รูป

3. สมัครทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) โดยแนบเอกสารตามรายละเอียด ข้อ 2 1) – 5) ส่งที่ E-mail : kingrama7@parliament.go.th (อนุโลมการลงลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์)
นอกเหนือจากการพิจารณาเอกสารเหล่านี้แล้ว คณะอนุกรรมการฯ สงวนสิทธิที่จะใช้วิธีการ สัมภาษณ์เป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาให้ทุน หากมีการสัมภาษณ์จะได้แจ้งการจัดวันสัมภาษณ์ไปให้ผู้สมัครทราบทางไปรษณีย์ตอบรับ

การประกาศผล

คณะอนุกรรมการฯ จะแจ้งผลการพิจารณาการให้ทุน ให้ผู้สมัครทราบภายในเดือน พฤษภาคม 2568 หรือก่อนหน้านั้น ผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด

ข้อผูกพันของทุน

ผู้ที่ได้รับทุน
1. ต้องทําการค้นคว้าวิจัยตามโครงการที่เสนอให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยกําหนด หากทําวิทยานิพนธ์ไม่สําเร็จหรือพ้นสภาพจากนิสิต – นักศึกษาของมหาวิทยาลัยต้องคืนเงินทั้งหมดที่ ได้รับไปจากมูลนิธิฯ แล้ว
2. ต้องติดตามให้อาจารย์ที่ปรึกษาส่งรายงานความคืบหน้าของการทําวิทยานิพนธ์ให้คณะอนุกรรมการฯ ทราบภายในเดือนกันยายนของทุกปี
3. เมื่อทําการค้นคว้าวิจัยแล้วเสร็จ ต้องส่งวิทยานิพนธ์ที่เสนอต่อสถาบันการศึกษา ให้แก่ คณะอนุกรรมการฯ จํานวน 1 ชุด ทันทีที่แล้วเสร็จ
4. ต้องมีข้อความแสดงถึงการได้รับทุนสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยจากมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี หรือในภาษาอังกฤษว่า “The King Prajadhipok and Queen Rambhai Barni Memorial Foundation” ในกิตติกรรมประกาศ ของวิทยานิพนธ์ เพื่อแสดงถึงความรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณของทั้งสองพระองค์
5. ต้องส่งบทคัดย่อวิทยานิพนธ์พร้อมไฟล์ PDF ซึ่งเขียนขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ แก่บุคคลทั่วไปให้แก่คณะอนุกรรมการฯ จํานวน 1 ชุด
6. ควรยินดีให้ความร่วมมือกับคณะอนุกรรมการฯ ในการจัดหาสําเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ การค้นคว้าวิจัยในโครงการ เพื่อเป็นสมบัติของมูลนิธิฯ ทั้งนี้ มูลนิธิฯ จะได้มอบค่าใช้จ่ายตามที่จําเป็น ในการจัดหาให้ตามที่ตกลงเป็นกรณี ๆ ไป

นอกเหนือจากนี้ ผู้รับทุนไม่มีพันธกรณีใด ๆ ต่อมูลนิธิฯ และในทางตรงกันข้าม มูลนิธิฯ ไม่มีพันธกรณีใด ๆ ต่อผู้รับทุน แต่มูลนิธิฯ หวังว่าผู้รับทุนจะรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี และให้การสนับสนุนมูลนิธิฯ ตามแต่โอกาสจะอํานวยต่อไป

ความร่วมมือจากสถาบันการศึกษา

มูลนิธิฯ ขอความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชนและบุคลากรของสถาบันฯ ในการ
1. ประกาศโครงการทุนนี้ให้นิสิตนักศึกษาบัณฑิตศึกษาทราบโดยทั่วกัน
2. ออกใบรับรองที่จําเป็น
3. อาจารย์ที่ปรึกษาขั้นบัณฑิตศึกษาออกเอกสารวินิจฉัยความสามารถทางวิชาการของ ผู้สมัคร รับรองประมาณการค่าใช้จ่าย และรายงานความคืบหน้าของโครงการให้มูลนิธิฯ ทราบ ในระยะเวลา ที่มูลนิธิกำหนด
4. เสนอแนะเกี่ยวกับความต้องการทุนค้นคว้า วิจัย ในศาสตร์ต่าง ๆ แก่มูลนิธิฯ
5. ติดต่อขอใบสมัครได้ที่บัณฑิตวิทยาลัยหรือคณะของท่าน

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียด และขอใบสมัครขอรับทุนได้ที่

1. สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 (กลุ่มงานกิจการทั่วไป สํานักบริหารงานกลาง) ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2242 5900 ต่อ 5241 – 5244 (เว็บไซต์ ของมูลนิธิฯ www.parliament.go.th/kingrama7 เว็บไซต์ของรัฐสภาที่ www.parliament.go.th ภายใต้หัวข้อข่าวประชาสัมพันธ์ของสํานักงาน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และทาง Facebook มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ ร.๗)
2. สมัครทางไปรษณีย์ส่งที่ มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (กลุ่มงานกิจการทั่วไป สํานักบริหารงานกลาง) เลขที่ 1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
3. สมัครทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยส่งที่ E-mail : kingrama7@parliament.go.th

ดาวน์โหลดใบสมัคร